ใช้ปลูกเพื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เนื่องจากเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีไนโตรเจนสูง รวมถึงสารอาหารอื่นด้วย
2. ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน ป้องกันหน้าดินพังทลาย
3. ใช้ปลูกเป็นพืชอาหารสำหรับเลี้ยงโค กระบือ รวมถึงดอก และใบที่นำมาเลี้ยงหมูได้เช่นกัน
4. ใช้ปลูกเพื่อนำดอกมารับประทาน ทั้งรับประทานสด หรือลวกจิ้มน้ำพริก รวมถึงใช้ประกอบอาหารหลายเมนู อาทิ แกงอ่อม แกงเลียง ต้มยำ เป็นต้น
5. ลำต้นใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ
6. เปลือกลำต้นสามารถดึงลอกเป็นเส้นได้ และจัดเป็นเส้นใยที่มีความเหนียวสูง สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชือก ด้าย และอวน เป็นต้น
คุณค่าทางโภชนาการของปอเทือง (100 กรัม)
เมล็ดปอเทือง
* โปรตีน 30-35%
* ไขมัน 12. 6%
– linolenic acid 4. 6%
– linoleic acid 46. 8%
– oleic acid 28. 3%
– saturated acids 20. 3%
* ความชื้น 8. 6%
* แป้ง 41. 1%
* เยื่อใย 8. 1%
* เถ้า 3. 3%
ลำต้น และใบ
* โปรตีน 14. 2%
* เยื่อใยหยาบ 33. 3%
* คาร์โบเดรท 38. 6%
* ไขมัน 2. 5%
* เถ้า 8. 0%
* แคลเซียม 0. 73-2. 08%
* ฟอสฟอรัส 0. 19-0. 51%
ที่มา: 1)
คุณค่าทางโภชนาการอาหารสัตว์ของปอเทืองที่อายุต่างๆด้วยการตัดสูง 30 เซนติเมตรจากพื้นดิน (100 กรัม)
องค์ประกอบทางเคมี
อายุ 30 วัน
อายุ 40 วัน
อายุ 50 วัน
DM (%)
20.
- ค่าหด สรรพคุณและประโยชน์ของต้นค่าหด 8 ข้อ !
- ปอเทือง – Thaibssc
- ปอแก่นเทา – พันธุ์ไม้ในพระจุฑาธุชราชฐาน
- โครงสร้างสังคมพืชและกักเก็บคาร์บอนของพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าเศรษฐกิจ ณ สถานีวิจัยและฝึกนิสิตวนศาสตร์วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา – TFERJ
- ฐานข้อมูลไม้ยืนต้นในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- ปอเทือง ประโยชน์ และการปลูกปอเทือง | พืชเกษตร.คอม
ค่าหด สรรพคุณและประโยชน์ของต้นค่าหด 8 ข้อ !
ปอบิด ปอกะบิด East Indian screw tree
ปอแก่นเทา
ชื่อวิทยาศาสตร์: Grewia
eriocarpa Juss. วงศ์:
Tiliaceae
ชื่อสามัญ:
ชื่ออื่น:
คันเทา (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ); ปอแก่นเทา (เชียงราย,
นครพนม); ปอลาย (พิษณุโลก); ปอหมื่น, ยาบข้าวจี่
(ภาคเหนือ); ยาบน้อย, ยาบมื่น (เชียงใหม่); ลาย
(ราชบุรี)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
ประโยชน์:
ปอเทือง – Thaibssc
- ปอแก่นเทา
- Face scan 400 ราคา mm
- ทำความรู้จักกับBillie Eilish"นังตัวแสบ"คนล่าสุดแห่งวงการเพลง🎤😎🖤
- โหลด เพ พา ว 119
- ป – พันธุ์ไม้ในพระจุฑาธุชราชฐาน
- กระชอนทอดอาหาร 20 ซม. ซีพีเค - ที่ลวกอาหาร - kitchenwaremarket.com
- อ่านกันยัง Line Webtoon ? | Dek-D.com
- Brandname มือสอง-Chanel กระเป๋า ชาเนลมือสอง กระเป๋าแบรนด์มือสอง
- ขายรถ ฮอนด้า HONDA CITY ปี 2000
- จ้าง ตรวจ บ้าน
Grewia eriocarpa Juss. วงศ์ TILIACEAE
ชื่ออื่นๆ: คันเทา (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ปอลาย ปอหมื่น ยาบข้าวจี่ ยาบน้อย ยาบมื่น (เหนือ)
ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงถึง 15 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่ ขนาด 3-12 x 2-5. 5 เซนติเมตร ผิวใบมีนวลและขนสั้นนุ่มด้านล่าง ปลายใบแหลม โคนใบมนกลมหรือเบี้ยว ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย ก้านใบยาว 3-10 มิลลิเมตร ช่อดอกออกตามซอกใบ ตั้งขึ้น ยาว 1. 5-3 เซนติเมตร ดอกตูมรูปไข่ถึงรูปไข่กลับ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวอ่อน รูปใบหอก ด้านนอกมีขน กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลืองอ่อน รูปใบหอก ขนาด 2. 5-4 x 1 มิลลิเมตร ผิวด้านนอกมีขนบริเวณครึ่งล่าง เกสรเพศผู้จำนวนมาก สีเหลือง รังไข่รูปไข่ ผลกลม มี 2-4 พู แข็ง มีขนปกคลุม
ออกดอกและผลระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม มักขึ้นบริเวณที่กลางแจ้ง เปลือกต้นให้เส้นใยค่อนข้างเหนียวใช้ทำเชือกได้ดี
ปอแก่นเทา – พันธุ์ไม้ในพระจุฑาธุชราชฐาน
31
23. 84
23. 49
CP (%)
22. 22
20. 12
18. 82
EE (%)
3. 07
2. 71
2. 26
ASH (%)
7. 66
6. 47
6. 37
CF (%)
12. 37
18. 84
25. 76
NEF (%)
34. 17
27. 89
23. 74
NDF (%)
26. 36
39. 32
54. 33
ADF (%)
24. 37
33. 03
47. 19
ADL (%)
4. 31
6. 53
8. 84
ที่มา: 2)
สรรพคุณปอเทือง
– ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
– ช่วยในการขับลม
– ช่วยเจริญอาหาร
– แก้ลำคออักเสบ
– ช่วยขับเสมหะ
– แก้อาการปวดท้อง รักษาโรคลำไส้อักเสบ
– น้ำต้มใช้อาบแก้อาการคันตามผิวหนัง และรักษาโรคผิวหนัง
ราก
– ช่วยขับพยาธิ
– ช่วยขับลม
– ช่วยขับปัสสาวะ
การปลูกปอเทือง
การปลูกปอเทืองนิยมปลูกใน 2 ฤดู คือ ฤดูหนาวหลังเก็บเกี่ยวข้าว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม และฤดูฝนในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการปลูกที่พบในปัจจุบัน ได้แก่
1. ปลูกเพื่อใช้ไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด
2. ปลูกเพื่อใช้ทำหญ้าอาหาสัตว์
3. ปลูกเพื่อการท่องเที่ยว
4.
ใช้ปลูกเพื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เนื่องจากเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีไนโตรเจนสูง รวมถึงสารอาหารอื่นด้วย 2. ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน ป้องกันหน้าดินพังทลาย 3. ใช้ปลูกเป็นพืชอาหารสำหรับเลี้ยงโค กระบือ รวมถึงดอก และใบที่นำมาเลี้ยงหมูได้เช่นกัน 4. ใช้ปลูกเพื่อนำดอกมารับประทาน ทั้งรับประทานสด หรือลวกจิ้มน้ำพริก รวมถึงใช้ประกอบอาหารหลายเมนู อาทิ แกงอ่อม แกงเลียง ต้มยำ เป็นต้น 5. ลำต้นใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ 6. เปลือกลำต้นสามารถดึงลอกเป็นเส้นได้ และจัดเป็นเส้นใยที่มีความเหนียวสูง สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชือก ด้าย และอวน เป็นต้น
โครงสร้างสังคมพืชและกักเก็บคาร์บอนของพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าเศรษฐกิจ ณ สถานีวิจัยและฝึกนิสิตวนศาสตร์วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา – TFERJ
ฐานข้อมูลไม้ยืนต้นในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ค่าหด
ค่าหด ชื่อวิทยาศาสตร์ Engelhardtia spicata Lechen ex Blume [2], (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Engelhardtia aceriflora (Reinw. )
6-0. 8 เซนติเมตร เป็นร่องทางด้านบน [1], [3]
ดอกปอเต่าไห้ ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อดอกเป็นแบบช่อซี่ร่ม มีจำนวนดอกประมาณ 3-15 ดอก ดอกเป็นสีเขียวหรือสีเหลือง ก้านช่อดอกยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร ใบประดับเป็นเยื่อบางสีครีมแกมสีเขียวอ่อน ลักษณะเป็นรูปรี ปลายและโคนมน มีขนาดกว้างประมาณ 1-1. 5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร มีขนทั้งสองด้านติดทน ส่วนใบประดับย่อยมีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นรูปแถบ ติดทน กลีบเลี้ยงที่โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก ขนาดกว้างประมาณ 1. 5-2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 3-4 มิลลิเมตร มีขนทั้งสองด้าน สำหรับกลีบดอกนั้นจะมี 5 กลีบ ลักษณะเป็นรูปลิ้น มีความยาวประมาณ 2. 5 มิลลิเมตร อวบน้ำ ที่ปลายเป็นแฉกลึก 2 แฉก ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน เรียงเป็น 2 วง ก้านชูอับเรณูเกลี้ยง ยาวได้ประมาณ 0. 5-1. 5 มิลลิเมตร อับเรณูยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร รังไข่เป็นรูปรี อยู่เหนือวงกลีบ ยาวประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มีขนคล้ายเส้นไหมหนาแน่น มี 1 ช่อง มีออวุล 1 เมล็ด ก้านเกสรเพศเมียสั้น ยาวได้ประมาณ 1. 5-2 มิลลิเมตร ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม [1]
ผลปอเต่าไห้ เป็นผลสด ลักษณะของผลเป็นรูปไข่ ปลายแหลม ผิวเกลี้ยงหรือมีขนละเอียด ผนังชั้นในแข็ง ผลเป็นสีเขียว มีขนาดกว้างประมาณ 0.
ปอเทือง ประโยชน์ และการปลูกปอเทือง | พืชเกษตร.คอม
5-6 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนรูปลิ่ม ผิว ใบมีขนเฉพาะด้านล่าง ก้านใบยาว 10-30 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อแยกแขนง ที่ยอดหรือตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ดอกอ่อนรูปร่างกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยงสีเหลืองสด ส้มหรือแดง ส่วนโคนเชื่อมกัน เป็นรูป ระฆัง ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ปลายโค้งเข้ามาจรดกัน ที่ กลางดอก มีขนทั้งด้านในและด้านนอก ผล เป็นผล กลุ่ม ก้านผลยาวห้อยลงมา มี ผลย่อย 3-5 ผล สีแดง รูปไต ขนาด 4-5 x 2. 5 เซนติเมตร มีขนแข็งปกคลุมหนาแน่น เมล็ดมีประมาณ 20 เมล็ด
ออกดอกระหว่างเดือนกันยายนถึงธันวาคม ติดผลเดือนมกราคมถึงมีนาคม
Firmiana pallens (Wall.
ปอเต่าไห้ ". [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [23 ก. ย. 2015]. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. 2015]. ระบบจัดการฐานความรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ สำนักงานความหลากหลายทางชีวภาพด้านป่าไม้ กรมป่าไม้. 2015]. ภาพประกอบ: (by Tony Rodd), (by Sudarat Homhual), (by สมศักดิ์)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย ( Medthai)
เรื่องที่น่าสนใจ